การประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ครั้งที่ 2 (Thailand Climate Action Conference: TCAC 2023) วันที่ 6 - 7 ตุลาคม 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ “สานพลัง เสริมภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สร้า

การประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ครั้งที่ 2 (Thailand Climate Action Conference: TCAC 2023) วันที่ 6 - 7 ตุลาคม 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ “สานพลัง เสริมภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน”

     นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ครั้งที่ 2 (Thailand Climate Action Conference: TCAC 2023) ชวนคนไทยเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมด้านการผลิตและบริโภค เพื่อสร้างความยั่งยืน
 
     วันที่ 6 ตุลาคม 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม ภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ครั้งที่ 2 (Thailand Climate Action Conference: TCAC 2023) ภายใต้แนวคิด “สานพลัง เสริมภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยมีคณะรัฐมนตรี เอกอัครราชทูต องค์กรระหว่างประเทศ ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ว่าราชการจังหวัด เข้าร่วมการประชุม
 
     นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นสำคัญเร่งด่วนของโลก ทำให้ประเทศไทยมีการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมาอย่างต่อเนื่อง และยกระดับการดำเนินงานอย่างเข้มข้นมาทุกระยะ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ หากปราศจากความร่วมมือจากทุกคนในสังคม
 
     “มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นทุกภาคส่วนมาร่วมงานในวันนี้ หวังว่าการประชุมในวันนี้จะเป็นเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิด เสริมสร้างความร่วมมือ และดำเนินงานร่วมกัน เพราะเชื่อว่าถ้าเราร่วมมือกัน เราสามารถบรรลุสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้”
 
     นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า หลายคนมองว่าการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องยากและเป็นภาระ ที่จริงเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทยและภาคธุรกิจที่จะขับเคลื่อนไปสู่ความยั่งยืน ผ่านการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ ในภาคการผลิตและบริการ ซึ่งปัจจุบันองค์กรชั้นนำส่วนใหญ่มีการส่งเสริมการใช้มาตรการเพื่อความยั่งยืนด้วยแล้ว
 
     จากความจำเป็นเร่งด่วนในการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเทศไทยจึงได้จัดตั้งกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าว ควบคู่ไปกับการผลักดันพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อกำกับดูแลการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคบังคับ  ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
 
     นายกรัฐมนตรี หวังให้การประชุมในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ โดยรัฐบาลยินดีรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากการประชุมในครั้งนี้ด้วย
พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก และผลกระทบ ที่เกิดขึ้น ทั้งในลักษณะของการเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และการเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังชีวิตความเป็นอยู่ สุขภาพ และอาชีพของประชาชน ความมั่นคงของมนุษย์ ตลอดจนความสูญเสียและความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคม
 
     ประชาคมโลก จึงร่วมมือรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวผ่านการดำเนินงาน ตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ในฐานะรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พิธีสารเกียวโต และความตกลงปารีส ที่มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการลดก๊าซเรือนกระจก ที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก
 
     ดังนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่าย จึงได้จัดการประชุม ภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ครั้งที่ 2 หรือ TCAC 2023 เพื่อ
(1) เป็นเวทีสร้างพลังขับเคลื่อน การดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ในทุกระดับและทุกภาคส่วน ในการมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065 และการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามที่ได้แสดงเจตจำนงไว้ ต่อประชาคมโลก
(2) เผยแพร่ความก้าวหน้า การดำเนินงานในระดับโลก ผลการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การถ่ายทอดเป้าหมายระดับโลก มาสู่ทิศทางการดำเนินงานในประเทศไทย โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อให้รู้เท่าทันสถานการณ์ และร่วมกันสร้างความพร้อมในการนำไปสู่การปฏิบัติในทุกระดับ โดยเฉพาะในระดับพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม
TCAC 2023 จะเป็นหนึ่งในเวทีสำคัญของประเทศไทย ที่จะมีการนำเสนอ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความคาดหวัง เพื่อนำไปสู่การดำเนินงานที่ชัดเจน สามารถจับต้องได้
 
     ทั้งนี้ ผลจากการประชุมครั้งนี้จะนำไปรายงานในช่วงสมัยประชุมสมัชชารัฐภาคีกรอบอนุสัญญาฯ สมัยที่ 28 (COP28) ซึ่งมีกำหนดจัดในระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 12 ธันวาคม 2566 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะผลักดันประเด็นการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy transition) และการยกระดับเศรษฐกิจไปสู่การค้าการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ (Climate’s capital)
 
   โอกาสนี้ นายกุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ดร.อรนุช หล่อเพ็ญศรี อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี พร้อมด้วย ดร.สุรินทร์ วรกิจธำรง รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และ นายยงยุทธ นาควิโรจน์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเข้าร่วมในงานดังกล่าว ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์